โครโนส : Chronos ตามตำนานเล่าว่า:- ในบทสวด Orphic, โครโนสเป็นสิ่งที่ "พรั่งพรูออกมา" โดย "ดินและน้ำ" unaging และให้กำเนิดอากาศธาตุ ความโกลาหล และไข่ [9] มันก่อให้เกิดเทพเจ้ากระเทยซึ่งเป็นผู้ให้กำเนิดเทพเจ้ารุ่นแรก และเป็นผู้สร้างขั้นสูงสุดของจักรวาล Pherecydes of Syros ใน Heptamychos ที่สูญหาย (เจ็ดช่อง) รอบศตวรรษที่ 6 อ้างว่ามีสามหลักการนิรันดร์: Chronos, Zas (Zeus) และ Chthonie (chthonic) น้ำอสุจิของโครโนสถูกวางไว้ในที่พักพิงของโลกและผลิตเทพเจ้ารุ่นแรก ** โปรดอย่าสับสนกับโครนัสพ่อของไททันแห่งซูส ** โครโนส (/ ˈkroʊnɒs /; กรีก: Χρόνος, "เวลา", ออกเสียง [kʰrónos], ทับศัพท์เป็น Khronos หรือ Latinised เป็น Chronus) เป็นบุคลาธิษฐาน หรือตัวแทนของเวลาในยุคก่อนปรัชญาโสคราตีสและวรรณกรรมต่อมา โครโนสบางทีก็ถูกทำให้สับสนกับไททันโครนัสในสมัยโบราณเนื่องจากความคล้ายคลึงกันในสองชื่อนี้ แต่อัตลักษณ์ประจำตัวของเขาแพร่หลายมากขึ้นในช่วงยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาทำให้เกิดสัญลักษณ์ของ "เทพบิดาแห่งเวลา" ควงเคียวเพื่อเก็บเกี่ยวเวลา ภาพวาดของเขาในกรีก - โรมั

อแนงกี : Ananke ตำนานกรีกเก่าเล่าว่า :- ในเทพนิยาย Orphic : Ananke เป็นสิ่งมีชีวิตที่เกิดขึ้นในช่วงเช้าแห่งการสร้างสรรค์ด้วยตนเอง พร้อมกับโครโนส ผู้เป็นพี่ชายและผู้เป็นสวามี ในรูปแบบคดเคี้ยว มีแขนที่ยื่นออกไปล้อมรอบจักรวาล ... เพื่อที่จะสร้างจักรวาลนี้ อแนงกีและโครโนสได้รวมตัวกันในรูปแบบของงูใหญ่โอบกระหวัดพันเกี่ยว ล้อมรอบไข่แห่งจักรวาล พวกเขาช่วยกันบีบบดมันจนแตกออก ซึ่งส่วนประกอบต่าง ๆ กลายเป็นโลก สวรรค์ และทะเล หรือในอีกนิยามหนึ่ง Ananke ก็คือแม่ (หรือตัวตนอื่น) ของ Adrasteia, ผู้แจกจ่ายรางวัลและการลงโทษ Ananke ในตำนานเทพเจ้ากรีก อแนงกีมักปรากฏลักษณะในแง่ของผู้หญิงที่เคร่งขรึม หรือไม่เธอก็มักจะปรากฎในรูปแบบของงูคดเคี้ยวร่วมกับโครโนสที่กำลังล้อมรอบไข่จักรวาลเพื่อบดให้มันแตกออก โดยถูกกำกับด้วยเส้นทางแห่งสวรรค์และการเคลื่อนไหวไปข้างหน้าของเวลา ตามลำดับวงศ์ตระกูลเทพเจ้าของ Hesiod มันอาจไม่น่าแปลกใจที่ Ananke ไม่ค่อยถูกกล่าวถึงนัก ถึงแม้ว่าชื่อของเธอจะถูกใช้เป็นครั้งคราวใน Prometheus Bound (Aeschylus) และ Argonautica (Apollonius Rhodius) นักเดินทางและนักเขียนชาวกรีก Pausanias

เฮเมรา : Hemera เฮเมรา Hemera เป็นหนึ่งในเทพเจ้าดั้งเดิมในเทพปกรณัมกรีก เป็นลูกสาวของเทพเจ้าดั้งเดิม Erebus (ความมืด) และ Nyx (กลางคืน) เธอเป็นตัวตนของยามทิวา (กลางวัน) มีสามีคือเอเธอร์ผู้เป็นพี่ชาย ซึ่งเธอให้กำเนิด Thalassa (ทะเล), ยูเรนัส (สวรรค์) และ Gaia (โลก)  Hemera เรียกอีกอย่างว่า Mors, Himera  ดูเพิ่มเติมที่: Erebus, Nyx, Aether, Uranus, Gaea 💟 ตรงนี้มี 'นิยาย..โรแมนซ์แฟนตาซี' กดอ่านได้ทันทีที่รูปภาพด้านล่างนี้จร้า~˚♡ ⋆｡ ┊ ┊ ┊ ┊ ┊  ┊ ┊ ✫ ˚♡ ⋆｡ ❀  ┊ ☪︎⋆ ⊹  ┊ . ˚  ✧ ❻ Step : How to..ขั้นตอนสุดง่ายได้นิยายมาฟินน์~* [แนะนำวิธีดาวน์โหลดนิยายสำหรับสมาชิกใหม่นะคะ] 1. ต้องไปโหลดแอฟ Mebmarket (สีเขียว) ที่ play store มาก่อนค่ะ 2. สมัครสมาชิกโดยใช้ Email address หรือ FB account  3. เลือกนิยาย (หรือ ตามกด link พร่างพระพาย ตรงนี้ไปก็ได้ ) 4. กดที่ปุ่ม > Buy < 5. จ่ายตังค์ (ผ่านหนทางที่สะดวกให้เลือกหลากหลายรวมทั้ง online) 6. รับนิยายอ่านได้เลยค่ะ // อ่านใน App นร้าาาา~* (ปล. สมัครสมาชิกแล้วลดทอนขั้นตอนข้อ 1, 2 ไปนร้า~*)

อีเธอร์ : Aether อีเทอร์ เป็นเทพแห่งอากาศ เป็นบุตรแห่งเอเรบัส เทพแห่งความมืด และ นิกซ์เทพีแห่งราตรีในเทพปกรณัมกรีก เขาเป็นตัวตนของอากาศส่วนบนที่มีแต่เทพเจ้าเท่านั้นหายใจได้ ซึ่งตรงข้ามกับอากาศปกติที่มนุษย์ใช้หายใจ  อากาศธาตุ เป็นหนึ่งในเทพเจ้าดั้งเดิมในตำนานเทพเจ้ากรีก ลูกชายของเทพเจ้าดั้งเดิม Erebus (ความมืด) และ Nyx (กลางคืน) หรือตามบทเพลงสวดแห่ง Orphic, เขามีความเกี่ยวข้องกับ Chronos (เวลา) และ Ananke (จำเป็น) และเขาเป็นพี่ชายของ Hemera (เทพีแห่งกาลทิวา-กลางวัน) และตามแหล่งที่มาบางอย่าง เขาคือผู้ให้กำเนิด Gaea (โลก), Thalassa (ทะเล) และดาวยูเรนัส (สวรรค์)  คำว่า αἰθήρ (aithḗr) ในกรีกโฮเมอร์ริค หมายถึง "บริสุทธิ์ , อากาศบริสุทธิ์" หรือ "ท้องฟ้าแจ่มใส" เป็นความบริสุทธิ์แก่นแท้ เป็นอากาศที่เทพเจ้าใช้หายใจ ส่วนอากาศที่ล้อมรอบโลกมนุษย์ถูกเรียกว่า Chaos หรือ Aer ในขณะที่โลกใต้พิภพที่ซึ่งผู้ตายอาศัยอยู่ใน Erebos นั้นคือหลุมหมอกแห่งความมืดมิด Hesiod เฮเซียด ใน Hesiod ของ Theogony : Aether (Light) เป็นบุตรชายของ Erebus (Darkness) และ Nyx (Night) และพี่ชายของ

ทาร์ทารัส Tartarus                  ในเทพปกรณัมคลาสสิก เบื้องล่างของยูเรนัส (ท้องฟ้า) ไกอา (ผืนดิน) และ พอนตัส (ทะเล) ทาร์ทารัส หรือ ทาร์ทารอส (กรีกโบราณ: Τάρταρος แปลว่า "สถานที่ลึก") เป็นหลุมลึกหรือห้วงอเวจีที่ลึกและมืดมนไม่มีที่สิ้นสุด ถูกใช้เป็นสถานที่คุกมืดสำหรับทรมานและทำให้ได้รับความเจ็บปวดแก่โครนอสซึ่งอยู่ใต้โลกบาดาล เป็นที่ที่ซุสใช้เคียวของโครนอสสับโครนอสผู้เป็นบิดาเป็นพันชิ้นแล้วโปรยลงไปในนรกทาร์ทารัสตามตำนานกรีก ในกอร์จิอัส ผลงานของเพลโต (ประมาณ 400 ปีก่อนคริสตกาล) ได้เขียนไว้ว่า                  เช่นเดียวกับสิ่งดั้งเดิมอื่น ๆ (เช่น โลกและเวลา) ทาร์ทารัสเองก็เป็นอำนาจหรือเทพที่มีมาแต่ดั้งเดิมด้วยเช่นกัน                 ในเทพนิยายกรีก ทาร์ทารัสเป็นทั้งเทพดั้งเดิมที่มีอยู่ก่อนชาวโอลิมเปียน เช่นเดียวกับชื่อที่จะอธิบายภูมิภาคของดินแดนนรก ในฐานะพระเจ้าเขาอยู่ในอันดับสามรองจากความโกลาหลและอยู่ก่อนหน้าอีรอส                 ในฐานะที่เป็นสถานที่อยู่ต่ำกว่าที่พำนักของฮาเดสและใช้เป็นคุกที่น่ากลัวที่สุด บางทีก็บอกว่าระยะห่างระหว่างทาร์ทารัสและฮาเดสนั้นเหมือนกับระยะท

นิกซ์ Nyx นิกซ์ (อังกฤษ: Nyx ภาษากรีกโบราณ: Νύξ แปลว่า กลางคืน) หรือ น็อกซ์ (Nox) ในภาษาลาตินที่ชาวโรมันเรียก เป็นหนึ่งในเทพดั้งเดิม (protogenoi)ในเทพปกรณัมกรีก นิกซ์เป็นเทพีแห่งราตรีซึ่งเกิดจากเคออสและเป็นคู่ของเอเรบัส (ความมืด) นิกซ์เป็นมารดาของเทพต่างๆ มากมาย ซึ่งรวมถึงทานาทอส (ความตาย) และฮิปนอส (นิทรา) มีรูปลักษณ์เป็นหญิงสาวผู้งดงามและทรงอำนาจ Nyx เป็นเทพโบราณที่มีภาพสมมุติว่าเป็นสสารวัตถุแห่งราตรี - ม่านหมอกดำปกคลุมไปทั่วท้องฟ้าเพื่อบดบังแสงของ Aither ซึ่งเป็นประกายสีน้ำเงินแห่งสวรรค์ และที่ตรงข้ามกับเธอคือ Hemera (ยามทิวา) ที่กระจายหมอกแห่งยามรุ่งสาง ในศิลปะโบราณ Nyx ถูกวาดขึ้นในฐานะเทพีปีกหรือคนขับรถม้า บางครั้งสวมมงกุฎด้วยหมอกแห่งความมืด บทบาทในตำนาน :- กวีฮีเลียด กล่าวว่านิกซ์และเอเรบัสเป็นผู้ให้กำเนิดเฮเมรา (เทพีแห่งยามทิวา) กับอีเธอร์ (เทพแห่งนภากาศ) จากนั้นนางจึงให้กำเนิดเทพอื่นโดยตัวนางเอง  ซึ่งล้วนแต่ไม่น่าพิสมัยทั้งสิ้น ได้แก่ :- เฮเมรา (กลางวัน) อีเธอร์ (อากาศ) โมมอส (การเย้ยหยัน) โมรอส (ชะตาวิบัติ) เคอร์ (ความตายอันโหดร้าย) ทานาทอส (ความตาย) ฮิปนอส (นิ